หลายคนเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “บางคนประสบความสำเร็จเพราะโชคช่วย” หรือเห็นตัวอย่างบุคคลที่ดูเหมือนจะได้รับโอกาสดีๆ โดยบังเอิญ จนทำให้สงสัยว่าความสำเร็จในการทำงานจริงๆ แล้วเกิดจากโชคหรือความสามารถกันแน่ ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะแม้โชคจะมีส่วน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การประสบความสำเร็จมักเกิดจากหลายปัจจัยที่มากกว่านั้น
โชคมีบทบาทจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าโชคมีส่วนช่วย เช่น การได้เจอผู้ใหญ่ใจดี การมีโอกาสทำงานในจังหวะที่ตลาดเติบโต หรือการได้รับมอบหมายงานที่ตรงกับความถนัด สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและไปได้ไกลกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม หากขาดความรู้ ความสามารถ และความพยายาม โชคที่เข้ามาก็อาจสูญเปล่า
ความสามารถและความพยายามคือรากฐาน
ความสำเร็จที่ยั่งยืนแทบไม่เคยเกิดจากโชคเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการลงมือทำซ้ำๆ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คนที่ดูเหมือนโชคดี มักเป็นคนที่เตรียมพร้อมมาแล้ว เมื่อโอกาสเข้ามาจึงสามารถคว้าไว้ได้ทันที ตัวอย่างเช่น คนที่เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ย่อมพร้อมรับโอกาสเลื่อนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงานที่ดีกว่า
โอกาสเกิดจากการสร้าง ไม่ใช่รอคอย
หลายครั้งสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นโชค จริงๆ แล้วมาจากการสร้างโอกาสให้ตัวเอง เช่น การขยันเข้าสังคม การกล้าลองทำสิ่งใหม่ หรือการไม่หยุดพัฒนาฝีมือ การกระทำเหล่านี้เพิ่มโอกาสที่จะเจอโชคดีมากกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นโชคจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้
มุมมองด้านจิตใจและโชค
โชคไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์ภายนอก แต่ยังเกี่ยวข้องกับวิธีคิด คนที่มองโลกในแง่ดี มักมองเห็นโอกาสในสถานการณ์ที่คนอื่นมองไม่เห็น ขณะที่คนที่มองโลกในแง่ร้ายอาจพลาดโอกาสดีๆ ไปเพียงเพราะคิดว่าโชคไม่เข้าข้าง ดังนั้นทัศนคติที่ดีจึงเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามา
สรุป
โชคมีส่วนช่วยในการทำงานและความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ความรู้ ความสามารถ ความพยายาม และการเตรียมตัวอย่างสม่ำเสมอต่างหากที่ทำให้คนเราสามารถคว้าโอกาสได้เมื่อโชคมาถึง หากจะพูดให้ชัด ความสำเร็จคือการผสมผสานระหว่างการสร้างความพร้อมกับโชคที่เข้ามาในจังหวะเหมาะสม คนที่ดูเหมือนโชคดีจึงมักเป็นคนที่ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ